วัดวังตะกู
วัดวังตะกู ตั้งอยู่เลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ตำบลวังตะกู อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๕ อุโบสถหลังเก่าสมัยอยุธยา ชำรุดมากใช้การไม่ได้ ทางวัดจัดการสร้างขึ้นใหม่ในที่เดิม จึงรื้อของเก่าไปหมด และขอพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๓ และผูกพัทธสีมาในปี ๒๔๙๓ นั่นเอง ปัจจุบันได้สร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่อีกหนึ่งหลังไม่ซ้ำที่เดิม จึงขอพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่เป็นครั้งที่ ๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๓
วัดวังตะกู มีเนื้อที่ดิน ๔๒ ไร่ ๓ งาน ๔๐ ตารางวา ทิศเหนือ ติดกับที่ดินเอกชนหมู่ที่ ๒ ทิศใต้ ติดถนนผ่านหมู่บ้าน ทิศตะวันออก ติดคลองวังตะกูที่ต่อไปสู่คลองเจดีย์บูชา ทิศตะวันตก ติดที่ดินเอกชน ที่ตั้งวัดมีลักษณะเป็นที่ราบสูงกว่าที่อื่นน้ำท่วมไม่ถึง หลังวัดมีทางเชื่อมกับถนนมาลัยแมนลาดยางเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑
ที่วัดนี้แต่เดิมมา ไม่มีใครทำประวัติไว้สืบไม่ได้ว่าเป็นมาอย่างไร ถามคนเก่าๆ ก็บอกว่าเกิดมาก็เห็นมีวัดอยู่แล้ว หลวงปู่ชิน อิสสโร มรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ ท่านก็ไม่ทราบประวัติ เพียงแต่บอกว่า ในตำบลนี้มีวัดเดียว ภายหลังสร้างขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลใกล้กัน ชาวบ้านเรียกวัดวังตะกูว่า วัดเก่า เรียกวัดที่สร้างภายหลังว่า วัดใหม่ คือ วัดใหม่ปิ่นเกลียว ในปัจจุบันนี้ ชื่อวัดเก่าหายไปตามคนรุ่นเก่า ปัจจุบันคงเรียก วัดวังตะกู กันทั่วไป
ในสมัย ร.ศ.๑๒๖ โฉนดที่ดินของเอกชนระบุติด วัดบางตะกู ตำบลบางตะกู และเพี้ยนมาเป็น วังตะกู ได้อย่างไรไม่มีใครทราบ มีผู้เล่าว่า เคยพบป้ายชื่อวัดนี้จมอยู่ในสระน้ำหน้าวัด เมื่อวิดน้ำออกโกยเลนก้นสระให้สะอาด จึงพบป้ายชื่อวัดว่า วัดจันทาราม ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะใช้ชื่อวัดวังตะกูแล้ว ถามได้ความว่า พระที่มาก่อสร้างและปกครองวัดนี้รูปแรก ชื่อ จันทร์ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อวัดตามชื่อพระรูปนั้นว่า วัดหลวงพ่อจันทร์ คงให้เกียรติแก่ผู้สร้างเพื่อเป็นกำลังใจจึงตั้งชื่อวัดว่า วัดจันทาราม
มีผู้เล่าว่าริมคลองหน้าวัดมีต้นตะกูมาก บาง คือถิ่น อยู่ริมน้ำ ก็หมายความว่าริมน้ำ หรือริมคลอง มีต้นตะกูมากเลยตั้งชื่อตำบลว่า ตำบลบางตะกู วัดก็อนุโลมตามชื่อตำบล เพราะตำบลนี้มีวัดอยู่เพียงวัดเดียว ภายหลังคงมีใครเปลี่ยนคำหน้าจากบาง มาเป็นวัง ให้คล้องกันกับที่ใกล้ๆ คือ วังกะพี้ วังลาน ซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกัน เพื่อความเหมาะสมก็เป็นได้ จึงได้ชื่อว่า วัดวังตะกู
พระครูปลัดสาธุวัฒน์ (พรหมลิขิต) เจ้าอาวาสวัดวังตะกู